Archive 2020

เป็นไข้หวัดห้ามกินอะไร

เป็นไข้หวัดห้ามกินอะไร

  1. เป็นไข้ดื่มน้ำเย็นได้ไหม บอกเลยว่าได้เพราะการกินน้ำยิ่งเยอะยิ่งดีต่อสุขภาพ และการดื่มน้ำมากยิ่งทำให้ไข้ลดลง โดยควรดื่มแบบจิบน้ำบ่อยๆ แต่ให้ระวังคนที่มีอาการไอและมีน้ำมูกและเจ็บคอเพราะจะทำให้เสียงให้มีอาการไอมากยิ่งขึ้น เพราะจะเข้าไปทำให้เกิดการระคายคอและทำให้มีน้ำมูกและมีเสมหะมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยดังนั้นทางที่ดีควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นจะดีที่สุด
  2. เป็นไข้แล้วดื่มกาแฟได้ไหม บอกเลยว่าไม่ได้เพราะในกาแฟมีคาเฟอีนจึงไม่ควรที่จะนำมาดื่มในช่วงที่ไม่ค่อยสบาย เพราะกาแฟจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้มีการทำงานหนักมากยิ่งขึ้น และการดื่มกาแฟทำให้นอนไม่ค่อยหลับดังนั้นจะส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากนี้เครื่องดื่มทั้งประเภท ชา ก็มีผลในแบบเดียวกัน ดังนั้นหากยังอยู่ในช่วงที่เป็นไข้เครื่องดื่มประเภท ชา หรือ กาแฟ จึงไม่สมควรดื่มอย่างยิ่ง
  3. เป็นไข้ดื่มนมได้ไหม ขอบอกเลยว่าได้ค่ะเพราะนมมีสารอาหารที่ประโยชน์ต่อร่างกาย ยิ่งช่วงเป็นไข้แล้วดื่มนมอุ่นอุ่นจะยิ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเร็วขึ้น 
  4. เป็นไข้สามารถกินเหล้า เบียร์ได้ไหม ขอบอกว่าไม่ได้ค่ะเพราะเหล้าและเบียร์ คือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และอย่างที่ทุกคนรู้ว่าแอลกอฮอล์มีคุณสมบัติที่จะช่วยขับน้ำออกมาจากร่างกายดังนั้น หากเราดื่มเหล้าหรือเบียร์จะทำให้ร่างกายของเราขาดน้ำได้ โดยเฉพาะคนที่กินน้ำน้อยอยู่แล้วจะมีผลต่อร่างากายมาก ซึ่งอาจจะสงผลให้ร่างกายขาดน้ำได้ และการกินเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จะช่วยให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นดังนั้นมันจะกลายเป็นว่าทำให้เราต้องร้อนมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก
  5. เป็นไข้กินฝรั่งได้ไหม ตอบเลยว่าได้ค่ะเพราะฝรั่งคือผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงดังนั้น มันจะไปช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อมาต่อสู้กับไข้หวัดได้ และในฝรั่งนั้นมีโพแทสเซี่ยงมสูงดังนั้น จึงควรกินครั้งละ 1-2ลูกก็พอ อย่ากินเยอะมากเกินไป ซึ่งแต่ละครั้งควรมีการจำกัดการกินไม่เกินครั้งละ 2 กิโลเท่านั้นพอ เพราะหากกินมากกว่า 2กิโลจะทำให้เกิดไข้ขึ้นสูงได้โดยเฉพาะในเด็กเล็กหากกินมากเกินไปอาจจะทำให้ชักได้ค่ะ 
  6. เป็นไข้กินแตงโมได้หรือไม่ ตอบเลยว่าสามารถกินได้ เพราะในแตงโมจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบเยอะดังนั้นจะช่วยในเรื่องของการลดความร้อนในร่างกาย และช่วยปัสสาวะมากขึ้น ทำให้ไข้ลดลงได้

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์

เมอร์สและพิษสุนัขบ้า ไวรัสพันธุ์ผสม

ไวรัสและแบคทีเรียเป็นอะไรที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างมาก เพราะไวรัสหรือแบคทีเรียที่ว่านี้เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ มากมาย หลายๆ คนที่ได้รู้จักเกี่ยวกับโรคติดต่อ หรือเมื่อได้ยินเกี่ยวกับโรคติดต่อแน่นอนว่าคงไม่มีใครที่จะอยากติดโรคเหล่านี้อย่างแน่นอน เพราะถ้าหากว่าเราเกิดได้รับเชื้อขึ้นมาโอกาสที่จะรอดนั้นน้อยมาก แต่ก็ใช้ว่าจะไม่มีโอกาสรอดเลย อย่างที่เรารู้ๆ กันดีว่าถ้าหากว่าเป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้นก็แสดงว่าต้องใช้เวลาในการหายาเพื่อที่จะมารักษา

อย่างที่รู้กันดีว่าไวรัสและแบคทีเรียนั้นมีอยู่ตามธรรมชาติ มันมีทั้งไวรัสและแบคทีเรียที่ดีและไม่ดี และในปัจจุบันนี้ก็ได้มีการสร้าไวรัสชนิดใหม่ขึ้นมาภายในห้องปฏิบัติการ และนักวิทยาศาสตร์ได้สร้างไวรัสพันธุ์ผสมขึ้นมาระหว่างเมอร์สและพิษสุนัขบ้าด้วยความคิดที่ว่าการใช้ไวรัสแบบไฮบริดจะทำให้เราสามารถช่วยพัฒนาวัคซีนได้ที่จะช่วยปกป้องเราจากไวรัสทั้งสอง

โดยพิษสุนัขบ้าถือว่าเป็นโรคร้ายแรงที่สามารถติดต่อกับมนุษย์อย่างเราๆ ได้ผ่านการกัดของสัตว์ที่ติดเชื้อ ซึ่งสัตว์ที่ติดเชื้อนี้ก็มักจะมีไวรัสอยู่ในน้ำลาย MERS-COV หรือเมอร์สเป็นกลุ่มอาการของโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อจากกลุ่มไวรัสโคโรน่า ไวรัสตัวใหม่ที่เกิดขึ้นในซาอุดิอาระเบียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ซึ่งมันเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโรคSAES โดยที่จะแพร่กระจายจากค้าคาวสู่อูฐกระทั้งในที่สุดก็มาถึงมนุษย์ โดยที่มีผู้ติดเชื้อเมอร์ส 1,800 คน ในช่วงเวลาที่มีการระบาดครั้งแรกได้มีผู้เสียชีวิตกว่า 630 คน โดยที่อัตราของการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 35% สำหรับเราในตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนสำหรับเมอร์สในการสร้างไวรัสพันธุ์ผสมระหว่างเมอร์สและพิษสุนัขบ้านักวิจัยได้นำโปรตีนบางส่วนที่ได้จากไวรัสจากเมอร์สมาเพิ่มเข้าไปพิษสุนัขบ้า

ซึ่งพวกเขาใช้ไวรัสชนิดใหม่นี้เพื่อการพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ที่จะทำให้หนูทดลองสามารถทนต่อเมอร์สและพิษสุนัขบ้าได้ โดยที่พวกเขามีความเชื่อว่าวัคซีนจะสามารถใช้กับมนุษย์และอูฐที่เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อระหว่างเมอร์สและพิษสุนัขบ้า 

อย่างที่เราก็รู้ๆ กันดีว่า โรคติดต่ออย่างเมอร์สและพิษสุนัขบ้านี้มีความอันตรายมากแค่ไหน เพราะถ้าหากว่าเราได้รับเชื้อเข้าไปในร่างกายแล้วละก็นั้นก็อาจจะหมายถึงชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่ในปัจจุบันนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ก็พยายามที่จะคิดค้นด้วยวิธีต่างๆ มากมายเพื่อที่จะสร้างวัคซีนที่จะสามารถป้องกันมนุษย์เราจากเชื้อไวรัสที่มีความอันตรายต่อชีวิตเหล่านี้

 

 

สนับสนุนโดย  ชุดตรวจซิฟิลิส

รู้เท่าทันริดสีดวงและเนื้องอก

เมื่อเรานั้นไม่ค่อยถ่ายแต่พอเวลาที่เรานั้นถ่ายออกมามีอากรเจ็บตูดเริ่มแรกก็ไม่มีอาการอะไรแต่พอเป็นมาแบบนี้สักระยะเริ่มจะมีอาการมากขึ้นอย่างเช่นเมื่อเรานั้นถ่ายออกมาแล้วนั้นมีเลือดออกมาด้วยและก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นอาการนั้นได้เตือนมาหลายครั้งแต่ว่าคนเรานั้นนิ่งเชยกับอาการที่เรานั้นเป็น

ซึ่งบางคนนั้นก็คิดว่าเป็นแค่ริดสีดวงเดียวก็หายแต่คุณรู้หรือไม่ว่าอาการของเนื้องอกหรือว่ามะเล็งลำไส้นั้นก็เป็นคล้ายกับเนื้องอกเหมือนกันดังนั้นเราก็ไม่ควรที่จะชะล่าใจในการที่เรานั้นมีอาการดังนั้นเราก็ควรที่จะไปปรึกษาแพทย์หรือว่าหาหมอเพื่อที่จะได้รักษาให้ทั่วทันเวลาก่อนทีเรานั้นจะเป็นอาการที่มากขึ้นและเริ่มจะรักษายากขึ้นโดยกับแพทย์เฉพาะทางเพื่อที่จะช่วยให้รักษาได้ถูกวิธีก่อนที่เรานั้นจะสายเกินแก้

เรามารู้จักริดสีดวงกันหน่อย

เป็นภาวะที่หลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักมีการโป่งพอง บวม  ซึ่งสามารถเป็นพร้อมกันหลายตำแหน่งโดยแบ่งออกเป็น 2ชนิด คือ 

ริดสีดวงทวารภายใน  ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในของทวารหนักโดยหลอดเลือดที่โปร่งพองอาจจะไม่โผล่ออกมาให้เห็นแลไม่สามารถที่จะคลำหาเจอได้  ซึ่งเรานั้นจะตรวจพบก็ต่อเมื่อเรานั้นส่องกล้องเท่านั้น

.  ระยะแรกนั้นมีหัวของริดสีดวงแต่ว่าไม่มีก้อนเนื้อหรือว่าหัวนั้นยื่นออกมาแต่ว่ามีเลือดสดๆออกมาขณะที่เรานั้นถ่ายออกหรือว่าหลังถ่ายอุจจาระ 

.  ระยะที่สองหัวของริดสีดวงนั้นโผล่ออกมาขณะที่เรานั้นเบ่งหรือว่ากำลังถ่ายออกมาและก็หดกลับเข้าไปได้เองหลังที่เรานั้นถ่ายอุจจาระเสร็จเรียบร้อย 

. ระยะที่สามหัวของริดสีดวงนั้นโผล่ออกมาแต่ไม่สามารถที่จะไม่กลับเข้าไปเองได้ต้องใช้มือนั้นดันเข้าไป

.  ระยะที่สี่ หัวของริดสีดวงนั้นโผล่ออกมาและไม่สามารถที่จะดันกลับเข้าไปได้อีกอาจจะทำให้เรานั้นรู้สึกปวด  

ริดสีดวงทวารภายนอก  จะเกิดจากบริเวณทวารนั้นที่เป็นรอยย่นนั้นมีกลุ่มของหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังปากทวารหนักโปร่งพอง  สามารถมองเห็นและคลำได้หากมีรอยโรคนี้อาจจะเจ็บปวดได้

ปัจจัยเมื่อเรานั้นเสี่ยงที่จะเป็นริดสีดวงทวาร  ปัจจัยในการที่เรานั้นจะเสี่ยงเป็นริดสีดวงคือ  

ท้องผูกเรื้อรัง    ท้องเสียบ่อย   ถ่ายอุจจาระบ่อย    นั่งอุจจาระนั้นนาน    เบ่งขณะที่เรานั้นถ่ายแรง  ใช้ยาระบายยาสวนอุจจาระบ่อยโดยที่เรานั้นไม่จำเป็น   อายุมากกล้ามเนื้อนั้นหย่อนยาน   ไอเรื้อรัง   น้ำหนักมาก    ยกของหนักมากออกแรงมาก    โรคตับแข็งส่งผลถึงเส้นเลือดดำบริเวณทวารพอง    กรรมพันธุ์มีคนในครอบครัวนี้เป็น    ตั้งครรภ์ขับถ่ายไม่สะดวก  

สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นการบ่งบอกเรานั้นว่าเราเป็นริดสีดวงถ้าเรานั้นไม่อยากที่จะเป็นริดสีดวงนั้นเราก็ควรที่จะขับถ่ายให้เป็นเวลา

 

 

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยฮานอย เว็บไหนดี

คุณรู้หรือไม่ว่านชักมดลูก ใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์

          สมุนไพรชื่อแปลกหู ว่านชักมดลูก ใครได้ยินก็คงเข้าใจว่าเป็นสมุนไพรมีสรรพคุณที่ดูแลเรื่องมดลูกของผู้หญิงโดยตรง แต่ใครจะรู้ไหมว่านอกจากจะช่วยเรื่องมดลูกแล้ว ว่านชักมดลูกมีประโยชน์อะไรบ้าง ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักว่านชนิดกันก่อน ลักษณะของว่านชักมดลูกจะมีหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นลักษณะพื้นตระกูลขิง ว่านชักมดลูกมีด้วยกัน 2 สายพันธ์คือ ว่านชักมดลูกตัวผู้กับว่านชักมดลูกตัวเมีย

ลักษณะที่แตกต่างกันจะดูได้จากหัวที่อยู่ใต้ดิน โดยปัจจุบันเรานำว่านชักมดลูกมาเป็นสมุนไพรสำหรับดูแลรักษาร่างกายโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง และสายพันธ์ทีเรานำมาผลิตเป็นตัวยานั้น จะใช้ว่านชักมดลูกตัวเมียเป็นหลัก สรรพคุณเด่นของว่านชนิดนี้คือ รักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ รักษาอาการตกขาว และปวดท้องเวลามีประจำเดือน

ดังนั้นว่านชนิดนี้จึงเหมาะให้ผู้หญิงใช้งานมากกว่าผู้ชาย สำหรับการใช้งานว่านชนิดนี้นั้น โดยปกติจะมีการนำมาผลิตเป็นยา โดยเป็นยาแผนไทย แต่ก็สามารถนำว่านชักมดลูกมารับประทานแบบสดๆได้เหมือนกัน เพียงนำเอาหัวของว่านมาปอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาต้มดื่ม 

          ปัจจุบันมีการผลิตยาที่มีส่วนผสมของว่านชักมดลูกออกมาจำหน่ายมากมาย และสรรพคุณของยาก็รักษาได้หลายโรค เช่น ช่วยในเรื่องการรักษาอาการมดลูกต่ำไม่เข้าที่ ช่วยเสริมขยายหน้าอก แก้อาการอารมณ์แปรปรวนของผู้หญิง ช่วยยกกระชับหน้าท้องที่หย่อนคล้อยของผู้หญิงหลังคลอด ช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นในช่องคลอด ช่วยเรื่องลดรอยเหี่ยวย่น ฝ้าและรอยด่างดำ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่งมีเลือดฝาด และยังช่วยเสริมขยายหน้าอกอีกด้วย  นอกจากนี้ ว่านชักมดลูกยังช่วยเรื่องการรักษาโรคกระดูกพรุน ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดี และช่วยปกป้องตับและไต ที่สำคัญสามารถช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ด้วย  ว่ากันว่า การรับประทานว่านชักมดลูกมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้ กวาวเครือข่ายอีกด้วย

          ถึงแม้ว่าว่านชักมดลูกจะมีข้อดีในการรักษาโรคต่างๆมากมายดังที่กล่าวไปแล้วนั้น แต่ของทุกอย่างก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าข้อเสียนั้นจะมีมากน้อยแค่ไหน เรามาดูกันว่าจะมีผลข้างเคียงต่อการใช้ยาว่านชักมดลูกอย่างไรบ้าง สำหรับผู้ที่ทานยาบางรายที่มีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจะพบอาการเหล่านี้ได้ เช่น มีการปวดหัว ตัวร้อนเป็นไข้ได้ มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ มีผื่นขึ้นตามผิวหนังและลำตัว และอาจมีการอาการปวดหน้าอก หรือปวดช่องคลอด ปวดมดลูกได้ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลใจ ถ้ามีอาการให้หยุดกินสักพัก เมื่ออาการเหล่านี้หายค่อยกลับไปทานใหม่ โดยผลข้างเคียงที่กล่าวมานี้เกิดจากกลไกการทำงานของตัวยา ไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  รวมเว็บหวยออนไลน์

อาการเวียนหัวและรู้สึกว่าคลื่นไส้   

เมื่อเรามีความรู้สึกว่าเรานั้นมีอาการหน้ามืดอาการเวียนหัวและรู้สึกว่าคลื่นไส้   

    อาการที่เราเป็นนั้นมีความรู้สึกว่าหน้ามืดหรือว่าเวียนหัวร่วมกับการที่เรามีอาการอาเจียนนั้นร่วมด้วยเป็นอาการของความผิดปกติทางสมองและระบบประสาทที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรามีอาการเหล่านี้  และเรานั้นก็ควรที่จะต้องเริ่มรักษาโดยด่วนอย่างอาการต่อไปนี้   

  • โรคไมเกรน  
  • เยื่อหุ้มสมองนั้นอีกเสบ  
  • เส้นเลือดในสมองนั้นอุดตัน 
  • รู้สึกมีอาการวิงเวียนเมื่อเรานั้นเป็นมาเกรน  
  • เส้นประสาทถูกกดทับ  
  •   ศรีษะนั้นได้รับความกระทบกระเทือน  หรือว่าได้รับอุบัติเหตุ   

มีความผิดปกติภายในหูชั้นใน  อย่างเช่นเรานั้นรู้สึกว่ามีอาการโครงเครง  หรือว่ารู้สึกว่าเรานั้นยืนตรงๆแล้วมีอาการยืนเอียงมีความรู้สึกว่าเรานั้นเสียงความทรงตัว   จนทำให้เรานั้นต้องนั่นตรงๆ เช่น  

  • ตะกอนหินปูนในรูหูชั้นในนั้นมีความเครื่อนที่
  • กระดูกในหูนั้นมีความเจริญที่ผิดปกติ  
  • น้ำในหูนั้นไม่เท่ากัน  
  • มีการติดเชื้อในหู   
  • มีความผิดปกติของตา  ในเวลาบางครั้งนั้นเราก็มีความผิดปกติจากสายตาอย่างเช่น  สายตานั้นสั้นหรือว่ายาว  ที่ทำให้เรานั้นผิดปกติ  ก็จะทำให้เรานั้นรู้สึกได้ว่าเรานั้นเกิดอาการมองเห็นนั้นไม่ชัด  และก็จะเกิดอาการเวียนหัวคลื่นไส้   โดยตอนที่เรารู้สึกว่าสายตาของเรานั้นเริ่มที่จะพล่ามัว  ดังนั้นถ้าใครมีอาการเหล่านี้นั้นเราควรที่จะรีบไปพบหมอเพราะว่าเรานั้นไม่รู้ว่าเรานั้นมีอาการที่แทรกซ้อนหรือไม่   
  • ฮอร็โมนแปรปวน   ส่วนมากนั้นจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงโดยเฉพาะช่วงก่อนที่ผู้ที่หญิงนั้นจะเป็นประจำเดือน  หรือว่าระหว่างที่เป็นประจำเดือน  ซึ่งเป็นอาการที่ผู้หญิงนั้นจะมีอาการขึ้นๆลง  อย่างเช่น  อาการเวียนหัว   คลื่นไส้อาเจียน    หรือว่านอกจากนี้แล้วก็จะเป็นอีกช่วงนั่นก็คืออาการที่เรากำลังตั้งท้องนั่นเองเพราะว่าผู้หญิงที่กำลังตั้งท้องนั้นมักจะมีอาการที่แปรปรวนแบบนี้เป็นเป็นต้น   
  • ความดันของเรานั้นผิดปกติ    เป็นความดันที่สูงเกินไปหรือว่าต่ำเกินไปนั้นก็ส่งผลให้เรานั้นมีอาการที่ผิดปกติอย่างเช่นอาการที่เป็นวิงเวียนศีรษะ  มีอาการอาเจียนร่วมด้วยอย่างนี้เป็นต้น  เพราะว่าเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายนั้นไม่เพียงพอ จึงทำให้ร่างกายนั้นเกิดความผิดปกติจึงทำให้เรานั้นเกิดอาการเวียนหัวได้  
  • ดื่มแอลกอฮอล์    การที่เราดื่มแอลกอฮอล์มากๆหรือว่าเมาค้างนั้นจะทำให้เรารู้สึกว่าเรานั้นมีอาการปวดหัวนั้นได้  ซึ่งเรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องที่เราอาจจะได้ยินกันอยู่แล้ว  รวมไปถึงการที่เราอาเจียนออกมาด้วย  เพียงแค่เรานั้นนอนพักอาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไป  

 

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยออมสิน

โรคเอดส์นั้นมีกี่สายพันธุ์  

โรคเอดส์นั้นเราเรียนมากับการที่เราต้องต้องไปมีเพศสัมพันธุ์กับคนที่ติดเชื้อ หรือว่าเรารับเชื้อมา  การที่เป็นโรคนี้คือการที่เราติดเชื้อมา   และการที่รับเชื้อมานั้นเราต้องคิดว่าเราจะต้องอยู่บนโลกใบนี้อีกได้ไม่นาน  เดี่ยวเราก็ต้องตายในที่สุด  ดังนั้นเราต้องรู้จักการดูแลและรักษาเกี่ยวโรคนี้  และการที่เรารับเชื้อมาแล้วเราต้องปฏิบัติตัวอย่างไร  หรือสามารถที่จะหาซื้อ  ชุดตรวจ hiv  มาตรวจเพื่อเป็นการป้องกันได้ทันถ่วงที

โรคเอดส์นั้นมีกี่สายพันธุ์  

เชื้อเอชอวีนั้นมีมากมายและมีหลายสายพันธุ์อย่างมาก  โดยที่เรานั้นตรวจพบเจอนั้นจะมากกว่า 10 สายพันธุ์  นั้นกระจายอยู่ทั้งโลก

และในประเทศไทยของเรานั้นเราจะพบเชื้อที่มีการติดเชื้อเอสไอวีนั้นอยู่มีสองสายพันธุ์ นั้นก็สาย  เอ และสายอี  ที่เรานั้นพบมากและเยอะที่สุดในประเทศไทย นั่นก็คือการที่เราไปมีเพศสมพันธุ์ระหว่างชายและหญิง และอีกกลุ่มนั้นก็คือการที่เราใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน  นั่นก็คือกลุ่มที่เสพติด

โรคของ HIV นั้นจะติดต่อได้อยู่ 32ทางนั้นก็คือ  

  1. การที่เรามีเพศสัมพันธุ์กับคนที่เป็นเอดส์ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้คือการเป็นการที่ติดเชื้อนั้นได้โดยง่ายอย่างมาก เพราะว่าการที่เรามีเพศสัมพันธุ์แบบนี้คือการที่เราติดเชื้อไป 83% ของคนที่ติดเชื้อส่วนมากนั้นจะเป็นการที่เราติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธุ์ทั้งหมด  
  2. การที่เรารับเชื้อมาจากทางเลือด  การที่เรารับเชื้อแบบนี้จะมีอยู่ 2 กรณี  
    1. การที่เราใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน  ซึ่งคนกลุ่มนี้ที่จะติดเชื่อคือคนที่ที่เป็นกลุ่มที่ใช้ยาเสพติดร่วมกัน  แล้วใช้เข็มร่วมกันจนทำให้เกิดการติดเชื้อ
    2.  การที่เรารับเลือดมาจากการที่เราผ่าตัด  การที่เราต้องรักษาหรือว่าการที่เราต้องได้รับเลือด ในสมัยก่อนนั้นเราจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางนี้ได้ง่ายเพราะว่าคนที่มาบริจากเลือดนั้นเราไม่ได้ตรวจเลือดอย่างละเอียด  เพราะว่าเครื่องมือนั้นไม่ได้ทันสมัยเหมือนเดี่ยวนี้  แต่ว่าเดี่ยวนี้ถ้าจะบริจากเลือดนั้นเราก็ต้องตรวจเลือดอย่างละอียดและเดี่ยวนี้การที่ที่เราจะรับเชื้อทางนี้นั้นก็จะเป็นไปได้น้อยมาก 
  3. การที่เราติดต่อทางแม่สู่ลูก  เป็นการที่แม่นั้นรับเชื้อเอสไอวีและไม่ได้มีการป้องกัน  จึงทำให้เราตั้งท้องและด้วยวิธีการทางหมอนั้นได้มียาต้านไวรัสที่สามารถช่วยให้เมื่อแม่นั้นตั้งท้องแล้วลูกที่อยู่ในท้องนั้นจะไม่ติดเชื้อต่อจากแม่ ซึ่งจะเป็นการที่ได้รับเชื้อนั้นน้อยลง

โรคตับ

       การมีสุขภาพที่ดีนั้นเป็นสิ่งที่ใครๆต่างก็ปรารถนาด้วยกันทั้งสิ้น การที่ได้มีร่างกายที่พร้อมเป็นปกติและมีสุขภาพที่ดีแข็งแรงสมบูรณ์ครบถ้วนนั้นถือเป็นลาภอันประเสริฐยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ เพราะการจะดำเนินชีวิตให้ดีได้ในโลกของเรานั้นย่อมต้องพึ่งพาร่างกายเป็นหลักสำคัญในการคลับเคลื่อนในชีวิตในแต่ละวัน และในปัจจุบันก็มีโรคต่างๆมากมายเกิดขึ้นและพบเห็นได้ว่ามีคนบางจำนวนที่เป็นโรคต่างๆอีกมากด้วยเช่นกัน และหนึ่งในโรคที่เราพบเห็นก็คือโรคตับ ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกับโรคนี้กัน

      ในปัจจุบันนั้นพบว่าคนไทยบางจำนวนได้มีมีการป่วยเป็นโรคตับกันมากขึ้น โดยที่โรคตับนั้นถือว่าเป็นความเสี่ยงหนึ่งที่อาจนำให้ผู้ป่วยไปสู่อาการที่หนักขึ้นอย่างการเป็นมะเร็งตับต่อไปได้ในอนาคต เมื่อได้ทราบเช่นนี้อาจจะดูเป็นเรื่องที่น่ากลัวและหดหู่เป็นอย่างมาก แต่จริงๆแล้วสำหรับโรคตับนั้นเป็นอาการที่สามารถจะทำการรักษาและป้องกันก่อนสายได้หากมีการไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการเพื่อให้ทางทีมแพทย์ได้ทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆได้ เนื่องมาจากว่าอาการของโรคที่สืบเนื่องมากจากการเกิดอาการอักเสบของตับในระยะต้นนั้นจะยังไม่ได้มีการแสดงออกถึงความผิดปกติที่มากนัก

เพราะส่วนใหญ่ที่พบมักจะพบอาการที่แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความไม่ปกติของตับก็จะเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ตรวจแล้วพบเลยว่าตับมีลักษณะที่แข็งแล้ว ซึ่งอาการที่พบได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับส่วนมากนั้นจะมาด้วยอาการท้องบวม ตัวเหลือง และยังมีในบางรายที่มีอาการหนักมากๆเมื่อตรวจดูแล้วจึงพบว่าอาการได้เข้าสู่ระยะของการเป็นมะเร็งตับไปเสียแล้ว

และจะต้องใช้เวลารักษาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานต่อไปนั่นเอง สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตับนั้นก็มีอยู่ในหลายกลุ่มด้วยกันที่พบอยู่บ้างก็เป็นกลุ่มของคนที่ทางครอบครัวนั้นมีสมาชิกที่มีประวัติเป็นโรคตับมาก่อนก็มีความเสี่ยงว่าคนในครอบครัวคนอื่นๆที่สืบสายเลือดเดียวกันก็อาจจะเป็นโรคตับนี้ได้ด้วยเช่นกัน และสำหรับผู้ที่ไปตรวจแล้วพบว่ามีไขมันไปพอกอยู่ที่บริเวณตับ หรือแม้กระทั่งคนที่มีภาวะอ้วนลงพุงเองก็มีความเสี่ยงอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความเสี่ยงมากๆเช่นกันนั่นก็คือคนที่มีการดื่มสุราอยู่เป็นประจำและดื่มติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา

ร่วมหลายๆปีก็มักจะมีความเสี่ยงที่มากกว่าในกลุ่มคนอื่นๆจากที่กล่าวมา และหากใครที่กำลังสงสัยถึงอาการ หรือเป็นกังวลว่าอาการที่ตัวเองเป็นอยู่มีความเสี่ยงหรือเข้าข่ายของกลุ่มคนที่จะเป็นโรคตับก็สามารถที่จะไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการตรวจหาอาการดูก่อนก็ได้เพื่อความสบายใจ และเพื่อที่จะได้ระมัดระวังและสามารถป้องกันการนำไปสู่โรคนี้ได้ทันเวลา

        และทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับโรคตับที่ทางเราได้นำมาฝากให้ทุกๆคนได้ทราบถึงข้อมูลที่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้เอาไว้หากมีความสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเข้าข่างผู้ป่วยโรคตับแล้วก็จะได้มีความตื่นตัว หรือรู้เท่าทันว่าอาการในเบื้องต้นนั้นเป็นอย่างไร และเพื่อให้ทุกๆนั้นได้ตระหนักถึงความสำคัญในการหมั่นดูแลเอาใจใส่ต่อสุขภาพตับของตัวเองกันให้ดีด้วยนั่นเอง

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  แทงหวยฮานอย

การจัดฟันหรือดัดฟัน

การจัดฟันหรือดัดฟัน เป็นเทคโนโลยีอีกเเบบหนึ่งที่เอาใจคนรักฟัน เเละช่วยเเก้ปัญหาเกี่ยวกับฟันที่ผู้คนมักประสบพบเจอ การจัดฟันเป็นนวัตกรรมในการปรับรูปเเบบเเละโครงสร้างของรูปฟัน โดยจะมีการเอ็กซเรย์ฟันทั้งหมดก่อนที่จะจัดฟัน เพื่อที่จะไห้เห็นฟันทั้งหมด เพราะจะได้รู้ว่า ฟันที่ต้องถอน มันอยู่ในเหงือกไหม หรือฟันผุ ฟันครุด ฟันที่ไม่เกี่ยวหรือไม่ได้ช่วยอะไรก็ต้องถอนออกทั้งหมด

เพื่อไม่ไห้เป็นอุปสรรคในการทำฟัน การจัดฟันได้รับความนิยมมามากกว่า4-5ปีเเล้ว เเต่หลายคนเพียงเเค่ไม่รู้จัก ซึ่งระยะหลังๆนี้ เกิดการฮิตกันมากที่สุดในหมู่วัยรุ่นอายุ13ปีขึ้นไป ซึ่งการจัดฟันเเบบนี้ ไม่ต้องใช้หมอ ไปทำที่ห้าง ซึ่งเรียกว่า การจัดฟันเเฟชั่นนั่นเอง ราคาก็500-600 เเล้วเเต่บางร้าน

ซึ่งการจัดฟันเเบบนี้อันตรายมาก ทำไห้เกิดฟันล้ม เเละฟันเน่าได้ เเต่ในปัจจุบัน ไม่ค่อยมีคนจัดฟันเเฟชั่นกันเเล้ว เพราะมันเป็นผลเสียระยะยาว ที่จะทำไห้ฟันล้ม ซึ่งพอถึงเวลาจัดฟันจริงๆ การจัดฟันก็จะยากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งตอนนี้วัยรุ่นเเทบทุกคนก็หันมาจัดฟันเเฟชั่นเเท้อย่างจริงจัง เพราะมันอยู่ได้นาน อีกอย่างทำกับหมอที่คลินิกฟันโดยตรง ปลอดภัย สบายใจ ก่อนจะทำหมอจะประเมินฟัน โดยการเอกซเรย์ก่อนทุกครั้ง ซึ่งการจัดฟัน จะเเก้ปัญหากับผู้ที่มีฟันเหยิน ฟันเก ฟันห่าง ฟันไม่เท่ากัน ซึ่งหมอก็ทำการจัดฟันไห้

 เราสามารถเลือกยางจัดฟันได้หลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีเเดง สีเขียว สีเรืองเเสงต่างๆ หรือเเม้กระทั่งสีรุ้ง เลือกตามใจที่เราชอบได้เลย ซึ่งใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วย เช่น การใส่สกรูไห้ฟันยึดติดกันก่อน เพื่อไห้ฟันที่ห่างกันยึดมาติดกัน เเล้วใส่เหล็กจัดฟัน สำหรับคนที่ฟันเหยินมาก กรามยื่น เวลาจัดฟันเเล้วหน้าจะเรียวเล็กอย่างเห็นได้ชัดเจน

เเต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับใบหน้าของเเต่ละคน บางคนฟันเหยิน มันก็เลยดันกรามขึ้นมา ทำไห้หน้าใหญ่ เเต่ถ้าบางคนหน้าใหญ่เเละฟันเหยินอยู่เเล้ว อาจจะทำไห้ฟันหายเหยินเเต่หน้าที่ยังใหญ่ยังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งการจัดฟันเป็นที่ยอดนิยมในทุกๆวัย ไม่จำเป็นต้องเป็นวัยรุ่น 

การจัดฟันเป็นการช่วยเเก้ปัญหาฟันในเรื่องต่างๆ โดยการทำเทคโนโลยีมาช่วยในการจัดฟัน โดยมีการเอกซเรย์ การดามเหล็กเพื่อไห้ฟันเข้าหากัน เเก้ปัญหาฟันห่างมาก หรือเหยินมาก โดยการใส่เหล็กจัดฟัน เเล้วดึงเข้ามา อาจจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน2ปีเเล้วฟันจะเข้าที่ เเต่ฟันเข้าที่เเล้วต้องใส่รีเทนเนอร์เข้าไป เพื่อไห้ฟันที่เข้าที่เเล้ว อยู่ตัวไม่กลับมาเคลื่อนที่อีก เป็นการล็อคฟันอีกเเบบหนึ่ง เเต่ไม่ต้องใส่เหล็กจัดฟันเเล้วนั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์

หูฟังใช้อย่างไรไม่ทำให้หูหนวก

อาจพูดได้ว่าปัจจุบันหูฟังเป็นอุปกรณ์ที่ผู้คนนิยมใช้งานกันมากอย่างหนึ่ง เพราะไม่ว่าเราจะฟังข่าว เล่นเกม หรือฟังเพลง เราสามารถใช้หูฟังเพื่อให้เสียงที่เราได้ยินไม่ไปรบกวนผู้อื่น แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการใช้หูฟังนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะหากเราใช้หูฟังอย่างไม่ถูกต้อง จะมีผลเสียระบบการได้ยินของหูของเราด้วย เช่นทำให้หูหนวกได้  

         ปัจจุบันหูฟังมีการจำผลิตและจำหน่ายอยู่ 3 แบบ เราเรามาดูกันว่าแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบาง และเราควรเลือกใช้หูฟังแบบไหน ที่จะทำให้หูของเราไม่ต้องเสี่ยงเป็นโรคหูหนวก

1.หูฟังแบบที่ครอบหู  ซึ่งหูฟังชนิดนี้จะนิยมใช้งานกันมากในกลุ่มวัยรุ่น โดยหูฟังแบบนี้จะสามารถป้องกันเสียงของบรรยากาศจากภายนอกไม่ให้เข้าไปในหูได้  ดังนั้นผู้ใช้งานจึงไม่จำเป็นต้องปรับระดับความดังของเสียงมากเกิดไป จึงไม่เกิดอันตรายต่อหู แต่ข้อเสียคือหูฟังชนิดนี้จะมีลักษณะที่ใหญ่ บางคนจะรู้สึกไม่สะดวกที่จะต้องพกพาออกไปใช้งานนอกบ้าน

2.หูฟังแบบเอียร์บัด  สำหรับหูฟังชนิดนี้ จะไม่ค่อยช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากบรรยากาศรอบนอกได้ดีนัก การใช้งานเพียงใส่ไว้ที่รอบนอกรูหู ดังนั้นคนที่ใช้งานส่วนใหญ่จะใช้งานเมื่อยามออกนอกบ้านเท่านั้น แต่ข้อเสียของหูฟังชนิดนี้คือ เมื่อไม่สามารถกั้นเสียงจากภายนอกไม่ให้เข้าไปในหูได้ ดังนั้นผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะมีการปรับระดับเสียงที่หูฟังให้มีความดังมากขึ้น ซึ่งจะมีผลเสียต่อหู อาจะทำให้เกิดปัญหาแก้วหูอักเสบหรือเป็นโรคหูหนวกได้

3.หูฟังชนิดเสียบหู สำหรับหูฟังชนิดนี้ จะมีขนาดเล็กสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก อีกทั้งยังสามารถป้องกันเสียงบรรยากาศจากภายนอกไม่ให้เข้าไปรบกวนในหูได้ ดังนั้นผู้ใช้งานจึงไม่จำเป็นต้องปรับเสียงให้ดังมากนัก ไม่เป็นอันตรายต่อหู แต่ข้อเสียของหูฟังชนิดนี้คือ เมื่อเราไม่ได้ยินเสียงภายนอก อาจทำให้เราเกิดอุบัติเหตุได้หากนำมาใช้งานนอกบ้าน

             ที่บอกว่าหูฟังจะมีผลกระทบต่อการทำให้หูหนวกนั้น เพราะโดยปกติแล้วคนเราไม่ควรฟังเสียงที่ดังเกิน 90 เดซิเบลและการใช้งานหูฟังก็ไม่ควรใช้งานนานต่อเนื่องเกิน 1 ชั่วโมงที่สำคัญเราควรปรับความดังของหูฟังไม่ควรเกิน 60 % ของความดังสูงสุดของอุปกรณ์ ซึ่งหากหูของเราได้ยินเสียงที่ดังมากๆ นานๆ อาจทำให้เกิดปัญหาหูอักเสบหรือหูหนวกได้ 

         อาจพูดได้ว่าปัจจุบันหูฟังเป็นอุปกรณ์ที่ผู้คนนิยมใช้งานกันมากอย่างหนึ่ง เพราะไม่ว่าเราจะฟังข่าว เล่นเกม หรือฟังเพลง เราสามารถใช้หูฟังเพื่อให้เสียงที่เราได้ยินไม่ไปรบกวนผู้อื่น แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการใช้หูฟังนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะหากเราใช้หูฟังอย่างไม่ถูกต้อง จะมีผลเสียระบบการได้ยินของหูของเราด้วย เช่นทำให้หูหนวกได้  

         ปัจจุบันหูฟังมีการจำผลิตและจำหน่ายอยู่ 3 แบบ เราเรามาดูกันว่าแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบาง และเราควรเลือกใช้หูฟังแบบไหน ที่จะทำให้หูของเราไม่ต้องเสี่ยงเป็นโรคหูหนวก

1.หูฟังแบบที่ครอบหู  ซึ่งหูฟังชนิดนี้จะนิยมใช้งานกันมากในกลุ่มวัยรุ่น โดยหูฟังแบบนี้จะสามารถป้องกันเสียงของบรรยากาศจากภายนอกไม่ให้เข้าไปในหูได้  ดังนั้นผู้ใช้งานจึงไม่จำเป็นต้องปรับระดับความดังของเสียงมากเกิดไป จึงไม่เกิดอันตรายต่อหู แต่ข้อเสียคือหูฟังชนิดนี้จะมีลักษณะที่ใหญ่ บางคนจะรู้สึกไม่สะดวกที่จะต้องพกพาออกไปใช้งานนอกบ้าน

2.หูฟังแบบเอียร์บัด  สำหรับหูฟังชนิดนี้ จะไม่ค่อยช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากบรรยากาศรอบนอกได้ดีนัก การใช้งานเพียงใส่ไว้ที่รอบนอกรูหู ดังนั้นคนที่ใช้งานส่วนใหญ่จะใช้งานเมื่อยามออกนอกบ้านเท่านั้น แต่ข้อเสียของหูฟังชนิดนี้คือ เมื่อไม่สามารถกั้นเสียงจากภายนอกไม่ให้เข้าไปในหูได้ ดังนั้นผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะมีการปรับระดับเสียงที่หูฟังให้มีความดังมากขึ้น ซึ่งจะมีผลเสียต่อหู อาจะทำให้เกิดปัญหาแก้วหูอักเสบหรือเป็นโรคหูหนวกได้

3.หูฟังชนิดเสียบหู สำหรับหูฟังชนิดนี้ จะมีขนาดเล็กสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก อีกทั้งยังสามารถป้องกันเสียงบรรยากาศจากภายนอกไม่ให้เข้าไปรบกวนในหูได้ ดังนั้นผู้ใช้งานจึงไม่จำเป็นต้องปรับเสียงให้ดังมากนัก ไม่เป็นอันตรายต่อหู แต่ข้อเสียของหูฟังชนิดนี้คือ เมื่อเราไม่ได้ยินเสียงภายนอก อาจทำให้เราเกิดอุบัติเหตุได้หากนำมาใช้งานนอกบ้าน

             ที่บอกว่าหูฟังจะมีผลกระทบต่อการทำให้หูหนวกนั้น เพราะโดยปกติแล้วคนเราไม่ควรฟังเสียงที่ดังเกิน 90 เดซิเบลและการใช้งานหูฟังก็ไม่ควรใช้งานนานต่อเนื่องเกิน 1 ชั่วโมงที่สำคัญเราควรปรับความดังของหูฟังไม่ควรเกิน 60 % ของความดังสูงสุดของอุปกรณ์ ซึ่งหากหูของเราได้ยินเสียงที่ดังมากๆ นานๆ อาจทำให้เกิดปัญหาหูอักเสบหรือหูหนวกได้

 

ขอขอบคุณ เครื่องช่วยฟัง ที่ให้การสนับสนุน

การใช้หูฟังแบบผิดๆเสี่ยงหูหนวกได้

อย่างที่ทราบกันดีว่าหูฟังนั้นเป็นการขยายเสียงในรูปแบบหนึ่งซึ่งการบฏิบัติการของมันก็คล้ายๆกับการทำงานในรูปแบบของลำโพงแต่เป็นการทำงานโดยผ่านกึ่งกลางด้วยการผ่านสายมาส่งตรงต่อหูของเรา 

ต้องยอมรับว่าสมัยนี้คนส่วนใหญ่นิยมใช้หูฟังกันมากและเป็นสิ่งที่ทุกคต้องการมากๆพอกับสิ่งของจำเป็นชนิดอื่นๆเพื่อเป็นการใช้คู่กับมือถือในยุคสมัยนี้ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดๆก็ตาม คนส่วนใหญ่มักจะใช้มือถือพร้อมกับหูฟังคู่ใจไปในทุกๆที่ ขนาดการออกกำลังกายตามสาธารณะยังใช้มือถือกับหูฟังกันสะเสียส่วนมากเลย นี่แค่ยกตัวอย่างนะยังไม่รวมไปถึงการใช้งานดูหนังฟังเพลงหรือกรใช้แอพอื่นๆที่ต้องอาศัยมือถือกับหูฟังด้วยเลยแหละ

การที่เรานำตนเองเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนมากมาย ดังนั้นการใช้หูฟังไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมอย่างไหนก็ตามถือว่าเป็นมารยาทอย่างหนึ่ง ซึ่งการใช้หูฟังนั้นทำให้เสียงของมันไม่ก่อเกิดเสียงที่รบกวนบุคคลอื่นๆหรือรบกวนคนรอบข้าง ซึ่งเราควรมีหูฟังเพื่อเป็นมารยาทในการเข้าสังคมเหล่านั้น ไม่ใช่เปิดโดยไม่สนใจบุคคลอื่น นั้นคือคนที่แย่กับการเข้าสังคม

ความรู้เกี่ยวกับการใช้หูฟัง

เดิมทีหูฟังเรามีการนำมาใช้งานนานมากแล้ว แต่ไม่ค่อยนิยมกันเท่าไหร่นักเพราะส่วนใหญ่ในสมัยโบราณนั้นคนที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกทหาร เพื่อใช้ติต่อสื่อสารกัน ต่อมาก็ได้มีการพัฒนารูปแบบที่ทันสมัยขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงการใช้งานที่เราเห็นในปัจจุบัน 

ส่วนมากที่นิยมใช้หูฟังมีใครบ้าง

ในกลุ่มผู้ที่มีการนำหูฟังไปใช้งานมากที่สุดนั้นก็คือกลุ่มของวัยรุ่น เพราะเป็นกลุ่มเดียวกับการใช้มือถือมากที่สสุด อย่างที่บอกว่ามือถือส่วนใหญ่ก็มีความนิยมมากและหูฟังในสมัยนี้ก็ต้องใช้งานกับมือถือเช่นกัน กลุ่มต่อไปที่มีการใช้งานมากก็น่าจะเป็นวัยกลางคนที่มีการติดต่อไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานหรือแม้แต่การใช้ในเวลาขับรถซึ่งการใช้หูฟังที่มากจนเกินไปก็ไม่ได้ส่งผลให้ดีเท่าไหร่นัก เพราะเราควรใช้ในบริมาณที่พอดีจึงจะไม่ส่งผลกระทบต่อหูของเราหากใช้งานมากจนเกินไปที่ใช้ความดังมากๆหรือเกิดกำหนดที่ตั้งไว้

เราอาจจะมีผลข้างเคียงที่จะก่อให้เกิดการได้ยินที่ผิดปกติไปจากเดิมก็ได้ ซึ่งนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องพึ่ง เครื่องช่วยฟัง ในอนาคตก็ได้ ดังนั้นกันไว้ดีกว่าแก้ใช้ในปริมาณเสียงที่พดีและไม่ควรใช้นานเกินไปควรให้หูของเราได้พักบ้าง