เพื่อนร่วมงานชนโต๊ะจนถูกน้ำร้อนจากหม้อจิ้มจุ่มลวก

          เมื่อวันที่ 13 เดือนมีนาคม ข่าวจากสำนักข่าวช่อง 3 ได้ออกมรายงานข่าวเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอกำลังได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก ต้องรักษาตัวด้วยอาการถูกน้ำร้อนลวก ซึ่งคนก่อเหตุนั้นเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอนั้นเอง 

        สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ หญิงสาววคนที่เคราะห์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ได้เล่าให้กับนักข่าวฟังว่า เธอได้ไปทานอาหารที่ร้านจิ้มจุ่ม แต่ระหว่างที่นั่งกินอยู่นั้น ปรากฏว่าเพื่อนร่วมงานของเธอก็เดินเข้ามากินอาหารที่ร้านนี้ด้วย และเมื่อเดินมาถึงโต๊ะของเธอนั้น เพื่อนของเธอได้ชนโต๊ะจิ้มจุ่มของเธอ ส่งผลให้หม้อจิ้มจุ่มหก และน้ำร้อนไหลมาลวกบริเวณขาของเธอ รวมถึงแขนของเธอ 

        ซึ่งทางเจ้าของร้านจิ้มจุ่มได้รีบเข้ามาช่วยเหลือ และพาเธอส่งโรงพยาบาล และเมื่อทางโรงพยาบาลตรวจสอบบาดแผลก็พบว่าแขนและขาของเธอทำน้ำร้อนได้รับความเสียหายไปถึง 25 % และแผลของเธอนั้นยังรุนแรงมาก โดยคุณหมอบอกว่าเป็นแผลน้ำร้อนลวกที่มีระดับความรุนแรงอยู่ที่ระดับสอง ซึ่งปกติแล้วการวัดระดับความรุนแรงของแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวงนั้นจะมีอยู่สามระดับด้วยกัน

        เธอได้เล่าว่า เธอได้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 26 วันหมอถึงได้อนุญาตให้เธอกลับมารักษาตัวต่อที่บ้านได้ และตอนนี้ก็ยังไม่สามารถไปทำงานได้ เพราะเธอยังเดินไม่ได้ ยังต้องมีคนคอยดูแล ประคองเดิน หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องนั่งรถเข็น

        แต่ที่ทำให้เธอไม่พอใจอย่างมากก็คือ การที่เพื่อนของเธอ คนที่ทำน้ำร้อนลวกเธอนั้น ไม่เคยมาเยี่ยมอาการป่วยของเธอเลยไม่ว่าจะเป็นที่โรงพยาบาลหรือว่าที่บ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว และตั้งแต่เธอได้รับบาดเจ็บที่ร้านจิ้มจุ่มเพื่อนของเธอก็ยังไม่เคยเอ่ยปากพูดคำว่าขอโทษเธอเลยสักครั้ง

         ซึ่งตอนนี้นั้นทางสภาพทางร่างกายและสภาพทางด้านจิตใจของเธอแย่มาก เพราะเธอนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างดูแลตัวเอง พอมาเจอว่าขาที่เธอภูมิใจว่าสวยนั้นกลับต้องมาเป็นแผบเหวอะหวะ และในอนาคตยังต้องมีแผลเป็นทำให้เธอเครียดมากและเธอรู้สึกรับสภาพตอนนี้ของเธอไม่ได้เลย

     คุณหมอได้แจ้งกับเธอว่ากว่าที่เธอจะหายดีนั้น อาจจะต้องรักษาแบบต่อเนื่องนานถึงสองปีเลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้เธอเสียค่ารักษาพยาบาลไปเยอะมาก และยังต้องเตรียมเงินรักษาในอนาคตอีก ที่สำคัญตอนนี้เธอต้องหยุดทำงานทำให้ขาดรายได้ 

      ซึ่งในตอนนี้เธอต้องการให้เพื่อนออกมาแสดงความรับผิดชอบ และเธอได้มีการปรึกษากับทนายความแล้วเพื่อจะดำเนินคดีกับเพื่อนของเธอ

 

สนับสนุนโดย.    สมัครเว็บหวยฮานอย

ประโยชน์ของยาสีฟันที่เรายังไม่รู้

เมื่อเราพูดเกี่ยวกับยาสีฟันเราจะนึกขึ้นได้เพียงแค่ทำความสะอาดในช่องปากของเราเพียงเท่าแต่ว่ามีใครนั้นรู้ไหมว่าประโยชน์ของยาสีฟันที่เราคิดว่าเอามาแค่แปลงฟันสามารถที่จะมีประโยชน์ได้มากกว่าที่เราคิดนั่นเองซึ่งมีประโยชน์อะไรบ้างที่ช่วยให้เรารู้ว่าประโยชน์ของยาสีฟันมากกว่าที่เราคิด

  • เมื่อเราต้องเจอเกี่ยวกับเตารีดที่เราเคยรีดผ้าไหม้เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอและเป็นเรื่องที่เรารู้สึกว่าอารมณ์เสียเป็นอย่างมากนั่นเองเพราะว่าเราจะต้องเจอเกี่ยวกับเตารีดที่ไหม้และเมื่อเวลาที่เราต้องรีดผ้าที่เป็นสีขาวจะเกิดเกี่ยวกับการที่ทำให้ผ้าสีขาวของเราจะเป็นสีหรือว่ารอยไหม้ที่เกิดจากเตารีด  และเราต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้อีกหลายครั้งเพราะว่าเราพยายามในการที่จะเอาใบตองมารีดเพื่อที่จะทำให้เตารีดที่ไหม้นั้นเกิดเป็นการรีดเสื้อผ้าที่รื่นนั่นเอง เพราะว่าเตารีดที่ไหม้แล้วจะทำให้รีดเสื้อผ้าไม่รื่นอีกด้วย ดังนั้นเราก็เลยเอายาสีฟันที่เราใช้มาทาตรงที่เป็นรอยไหม้นั่นเอง  จากนั้นเราก็เปิดเตารีดเอาไว้ให้ร้อนจนจะเห็นได้ว่ายาสีฟันที่เราทาไปเกิดมีเสียงหรือว่าเริ่มทำการกัดที่เตารีดบริเวณที่เราทา  จากนั้นเราก็ปล่อยทิ้งเอาไว้พอสักพักเราก็ปิดเตารีดชักปลั๊กไฟออกแล้วพอเตารีดอุ่นเราเอาผ้าที่หมาดๆมาเช็ดที่เตารีดเพียงเท่านี้เราจะได้เตารีดที่เหมือนเดิมกลับมาใช้งานได้แล้วนั่นเอง  
  • เมื่อเรามีลูกน้อยการที่เราล้างขวดนมเป็นเรื่องที่เราต้องทำความสะอาดอยู่แล้วนั่นเอง แต่ว่าในการที่เราต้องล้างขวดนมเราก็ควรที่จะล้างและทำความสะอาดจนเรารู้สึกว่ามีกลิ่นอับเหมือนเป็นกลิ่นเหม็นบูดยังไงไม่รู้ในวันนี้เราก็เลยเอาวิธีนี้มาบอกกันด้วยการที่เราล้างขวดนมเป็นเรื่องปกติแล้ว  จากนั้นเราเอายาสีฟันมาทำความสะอาดที่ขวดนมหรือว่าจุกนมและก็ใช้แปลงล้างขวดนมถูและล้างเหมือนกับว่าเราล้างขวดนมที่ปกติจากนั้นเราก็ล้างน้ำเปล่าเราจะเห็นได้ว่ากลิ่นที่เรารู้สึกว่าเหม็นบูดที่อยู่ที่ขวดนมจะหายไปนั่นเอง  แต่ว่าเป็นการทำแค่ชั่วคราวเพียงเท่านั้นไม่ควรที่จะทำความสะอาดได้ทุกวันนั่นเอง  เพราะว่าไม่ใช่เป็นอุปกรณ์ในการล้างขวดนม แต่ว่าเป็นเพียงที่ช่วยในเรื่องของการดับกลิ่นเหม็นบูดที่อยู่ในขวดนมของลูกน้อยเรานั่นเอง  

 

สนับสนุนโดย  สมัครเว็บหวยฮานอย

ผลของการที่เรานั่นทำงานเป็นเวลานาน

การที่เราต้องนั่นทำงานตามออฟฟิตนั้นเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถที่จะเหลีกเลี่ยงนั้นได้เกิดจากการที่เราต้องเรานั่นทำงานเป็นเวลานานดังนั้นการที่เราสามารถที่จะเลี่ยงหรือว่าออกมาลุกขยับแข้งขาหรือว่าเลือกที่จะเดินบ้างนั้นเป็นเรื่องที่ดีเพราะว่าร่างกายจะได้จะได้ขยับออกจากท่าเดิมๆนั่นเอง  ซึ่งวันนี้นั้นเราจะมาบอกวิธีหรือว่าผลข้างเคียงที่ทำให้เรานั่นในท่าเดิมนั้นนานเป็นการเสี่ยงต่อโรคและร่างกายของเรานั่นเอง  

  1. อินซูลิน  ในการที่เรานั่นๆหรือว่าเรานั้นนอนเล่นในวันที่เราหยุดเพียงแค่นี้นั้นจะทำให้เรานั้นห่างจากอินซูลินนั้นได้เพราะว่าร่างกายได้ปรับตัวอย่างเหมาะสม  ดังนั้นการที่เรากลัวที่จะเป็นเราต้องมีขวดน้ำเพื่อที่จะพกติดตัวเพราะวาถ้าร่างกายของเราเกิดอาการขาดน้ำนั้นเป็นผลเสียอย่างแน่นอนซึ่งจะทำให้ร่างกายของเรานั้นขาดเลือดหรือว่าเกิดอาการน้ำตาลในเลือดนั้นสูงขึ้นนั่นเองซึ่งจะทำให้ร่างกายเสียอินซูลินได้  
  2. อาการที่เรานั้นปวดขา ในเมื่อเรานั้นนั่งทำงานเป็นเวลาที่นานนั้นจะทำให้รูสึกว่าเรามีอาการปวดขาที่ตามมาดังนั้นการที่เรารู้จักที่จะลุกขึ้นเพื่อที่จะยืนนั้นเป็นเรื่องที่เราสามารถที่จะคลายกล้ามเนื้อนั้นได้เป็นอย่างดีแต่ถ้าเราไม่รู้จักในการรักษานั้นอาการที่ปวดนั้นนั้นเพิ่มมากขึ้น  วิธีช่วยนั้นคือการที่เราหาท่านั่งที่เรานั้นรู้สึกว่าเราสบายที่สุดหรือว่าเราเลือกที่จะเก้าอี้มาวางพาดขาเพื่อที่จะได้รู้สึกสบายมาก  แต่ถ้าอาการที่เราเป็นนั้นรู้สึกว่าไม่ดีขึ้นนั้นให้เราลุกเดินบ้านจะได้คลายกล้ามเนื้อนั่นเอง  
  3. การไขมันที่สะสม  ได้มีการวิจัยแล้วว่าการที่เราไม่รู้จักที่จะขยับอะไรเกี่ยวกับร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถที่จะทำได้เพราะว่าการที่เรานั่นทำงานเป็นเวลานานนั้นจะทำให้ไขมันเกิดขึ้นในร่างกายดังนั้นในการที่เราไม่รู้ว่าจะลุกขึ้นได้อย่างไรให้เราเลือกที่จะหาวิธีในการขยับตัวอย่างเช่นการที่เรายกแขนยกขาเพื่อที่จะได้ผ่อนคลายนั่นเองเพื่อที่จะให้ร่างกายของเราได้ขยับเพื่อที่จะลดหรือว่าช่วยให้ระบบเผาผลาญไขมันนั้นดีมากขึ้น  
  4. กระดูกเรานั้นเริ่มที่จะเสื่อม  ได้มีผลออกมาว่าการที่เรานั่นเป็นเวลานานนั้นเป็นเรื่องที่ดีแถมยังทำให้ร่างกายของเรานั้นเกิดอาการที่แย่ลงไปดังนั้นการที่เรานั้นนานก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดกระดูกที่ไม่ดีหรือว่ากระดูกเริ่มที่จะเสื่อมนั่นเอง  เพราะว่าขาดแร่ธาตุในกระดูด  ดังนั้นการที่เรารู้จักการดูแลตัวเองไม่ให้เรานั้นเสี่ยงต่อการที่เ)นโรคกระโกให้เรานั้นเริ่มที่จะหาแคลเซียมนั้นมาทานอย่างเช่นการที่เราหากินนม  หรือว่าผักให้มากขึ้นเพื่อที่จะเรานั้นจะไม่เสี่ยงต่อการที่เป็นโรคกระดูกอ่อนนั่นเอง 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  สมัครเว็บหวยฮานอย