Category สุขภาพ

3 เทคนิคลดการสะสมของไขมันโดยไม่ต้องออกกำลังกาย

สมัยปัจจุบันนี้ หนุ่มๆสาวๆส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการลดน้ำหนักกันเยอะมากๆ เพราะการที่เรามีรูปร่างที่ดี มีหุ่นที่สวยสุขภาพดี รวมไปถึงมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การใช้ชีวิตในประจำวันนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราจะลดน้ำหนักได้นั้นสมัยนี้สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งในแต่ละวิธีก็จะมีประโยชน์และมีผลลัพธ์ที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไปอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลัง รวมไปถึงการเลือกรับประทานอาหารเองก็ตาม เพราะการที่เรามีไขมันสะสมภายในร่างกายเยอะถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้หลายๆคนนั้นเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตไป

ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าสมัยนี้หนุ่มๆสาวๆหรือไม่ว่าใครก็ตามเริ่มหันมาออกกำลัง  เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ     หรือควบคุมอาหารกันมากขึ้นเพื่อที่จะช่วยลดการสะสมของไขมันแต่ทว่าเนื่องจากการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่นั้นแตกต่างกันออกไปบางคนอาจมีเวลาออกกำลังกายหรือควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่

สำหรับบางคน ใช้ชีวิตเต็มที่กับการทำงานจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่ก็ยากที่จะลดน้ำหนัก ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆในการลดการสะสมของไขมันโดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องออกกำลังกายซึ่งก็เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาได้ออกกำลังกาย ก็คือจะมีวิธีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.การเน้นการทานโปรตีน อย่างที่เราทราบกันดีว่าโปรตีนเป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดีและแข็งแรงให้แก่ร่างกายของเราได้ซึ่งคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักส่วนใหญ่ก็มักที่จะเลือกทานโปรตีนเพราะสามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้

รู้หรือไม่ว่าการที่เราไม่ได้ออกกำลังกายแต่เน้นการทานโปรตีนถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดการสะสมของไขมันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย

2.การเพิ่มไฟเบอร์ไปในมื้ออาหาร อาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ค่อนข้างสูงนั้น จะยิงเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายของเราหรือระบบย่อยอาหารของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ซึ่งสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลา ได้ออกกำลังกายขอบอกเลยว่าการที่เราเพิ่มไฟเบอร์เข้าไปในมื้ออาหารที่เรารับประทานอยู่เป็นประจำนั้นจะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้เราสามารถลดการสะสมของไขมันได้เป็นอย่างดี

3.หลีกเลี่ยงการทานอาหารแปรรูป หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าอาหารแปรรูปถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้เราอ้วนได้ง่ายหรือทำให้ร่างกายอ่อนแอ

ดังนั้นสำหรับใครที่อยากดูแลสุขภาพร่างกายและยากที่จะลดน้ำหนักไปด้วยการที่เราหลีกเลี่ยงการทานอาหารแปรรูป นอกจากจะช่วยลดการสะสมของไขมัน น้ำตาล ยังทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีและทำให้การลดน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แนะนำท่าโยคะช่วยบำรุงหัวใจได้

รู้หรือไม่ว่า หัวใจของเรา เป็นหนึ่งในอวัยวะที่ทำงานตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นทั้งเวลาเราหลับหรือแม้แต่เราใช้ชีวิตเองก็ตาม ซึ่งการที่เราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพหัวใจ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

เพราะโดยทั่วไปแล้วหัวใจของเราจะทำงานอยู่ตลอดเวลา และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราปล่อยละเลยการดูแลหัวใจ อาจจะทำให้สุขภาพหัวใจของเรานั้นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าหัวใจนั้นจะมีหน้าที่คอยสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายอยู่เสมอ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหมั่นบำรุงและดูแลสุขภาพหัวใจให้ดีอยู่เสมอนั่นเอง ซึ่งในสมัยนี้การดูแลสุขภาพหัวใจให้ดีและแข็งแรงก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก    ไม่ว่าจะเป็นทางการเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ

โดยตรง รวมไปถึงการออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ฉะนั้น เชื่อว่าหลายหลายคนคงต้องการที่จะมีสุขภาพหัวใจที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ และหากใครที่ต้องการ อยากบำรุงสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงอยู่เสมอก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป

เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำท่าโยคะที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจได้ หากเราเล่นเป็นประจำก็จะทำให้หัวใจของเราแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีท่าทางไหนกันบ้างไปดูกันเลย

  • ท่า Half Spinal Twist Pose

ท่าโยคะด้านนี้จะเป็นท่าที่เราสามารถทำได้ง่ายง่ายเพียงแค่เราบิดตัว ไปคนละฝั่งกับขาที่เรายกขึ้นมาจากพื้น ซึ่งขอบอกเลยว่าท่าทางโยคะท่านี้นอกจากจะช่วยปรับรูปร่างและบุคลิกของเราให้ดียิ่งขึ้น ยังช่วยในการฝึกการหายใจของเราให้รู้สึกผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นท่าทางที่สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

  • ท่า Bridge pose

ขั้นตอนแรกของท่านี้เป็นท่าที่เราต้องเริ่มต้นด้วยการนอนหงาย หลังจากนั้นให้งอเข่าขึ้นระหว่างเท้าอยู่กับพื้น ซึ่งเท้าของเราควรที่จะมีระยะห่างให้พอดีกับสะโพกของเราที่ต้องยกขึ้น โดยท่านี้จะสามารถช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกผ่อนคลายได้ ทำให้เลือดสูบฉีดได้มากยิ่งขึ้น และหากใครที่ต้องการทำให้หัวใจแข็งแรง ท่าโยคะท่านี้หากทำเป็นประจำก็จะสามารถทำให้หัวใจของเราแข็งแรงและเกิดการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดีมากยิ่งขึ้น

  • ท่า Seated Forward Bend Pose

ท่าโยคะท่านี้เป็นท่าที่หลายหลายคนก็สามารถทำได้ใครที่ต้องการมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรง รับเป็นท่าที่เราสามารถเริ่มต้นด้วยการนั่งราบลงบนพื้น หลังจากนั้นให้เรางอตัวลงมาแล้วยืดแขนตรง ซึ่งแขนของเราจะต้องแตะไปถึงปลายเท้าที่เรายื่นออกไป

โดยท่านี้จะช่วยทำให้ระบบต่างๆหรืออวัยวะต่างๆภายในร่างกายของเราทำงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้หัวใจของเรานั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการสูบฉีดเลือดได้ดีมากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มระบบการไหลเวียนเลือดภายในร่างกายให้ดีได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

เช็คอาการโรคซึมเศร้าพร้อมกับวิธีรักษา

คนส่วนใหญ่มักไม่รู้จักโรคซึมเศร้าหรือไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นด้วยซ้ำ เพราะอาการมันไม่ได้ชัดขนาดนั้น อย่างไรก็ตามหากคุณมีอาการผิดปกติทางด้านความรู้สึกซึ่งอาจจะหดหู่หรืออาจจะรู้สึกวิตกกังวลจนทำให้นอนไม่หลับ ก็ควรมาปรึกษาแพทย์เพราะว่าคุณอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าก็ได้

โรคซึมเศร้าเกิดจากการผิดปกติทางด้านจิตใจหรืออาจจะเรียกว่าจิตเวช ที่อยุ่ในกลุ่มจิตเวชก็เพราะว่ามีความผิดปกติทางด้านสมองของคุณ และผิดปกติทางด้านจิตใจของคุณนั่นเองซึ่งหากคุณกังวลว่าคุณนั้นเป็นโรคซึมเศร้าอยู่หรือเปล่า ให้ลองสังเกตตามนี้ โดย  เครื่องช่วยฟังอย่างดี   เราได้หยิบเบื้องต้นของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเอามาฝากแล้ว สามารถเช็คได้ดังนี้ แต่ต้องบอกว่าถ้ามีอาการตามนี้ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนนะ

เช็คอาการโรคซึมเศร้า สามารถเช็คได้ดังนี้

1.เศร้า เบื่อหรือหงุดหงิดง่าย อาการไม่ว่าจะเป็นเศร้า หงุดหงิดหรือเบื่อง่าย มักจะพบบ่อยๆในระหว่างวัน หากคุณมีอารมณ์เหล่านี้บ่อยๆหรือเป็นทุกวัน ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคซึมเศร้าแล้วนะ

 2.ไม่อยากทำอะไรเลยแม้แต่สิ่งที่ตัวเองชอบ รู้สึกว่าไม่อยากทำอะไรเลย มองไปทางไหนก็เบื่อไปหมด แม้แต่สิ่งที่ตัวเองชอบมากที่เคยตั้งใจทำมาตลอดแต่ก็ไม่อยากทำไม่อยากจะมอง บางคนอยากจะนอนเฉยๆ เบื่อไปหมดทุกอย่าง ไม่ยินดียินร้ายอะไรกับใครกลับมองว่าเรื่องเหล่านั้นน่าเบื่อขึ้นมาก

 3.เบื่ออาหารมากกว่าปกติหรือกินอาหารมากกว่าปกติ พบได้สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า บางคนเบื่ออาหารไม่ยอมทานอะไรเลย น้ำหนักลงเยอะมาก ผอมมากเหมือนคนคิดมาก แต่ในบางรายก็เครียดมากจนทำให้ทานไม่หยุดจะต้องทานตลอดเวลา น้ำหนักตัวก็พุ่งขึ้นเร็วมากเช่นกัน

 4.มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ การนอนมักจะนอนไม่ค่อยะหลับ หรือไม่หลับลึก ในแต่ละคืนก็จะตื่นมากลางดึกบ่อยครั้ง ทำให้การนอนยาวๆมีปัญหาตามมา ซึ่งไม่สามารถนอนยาวได้ แต่ในบางรายก็หลับมากหลับเกินเบอร์ หลับจนไม่อยากตื่น เอาแต่หลับจนน่ากลัว หลับแบบไม่ลุกมาทำอะไร

 5.มีปัญหาด้านความรู้สึก การทำงาน บางคนเป็นก็รู้สึกอ่อนเพลียจนไม่มีแรง ทำให้ทำอะไรช้าจนน่าลำคาน ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะอยากทำอะไรเลย หรือในบางคนก็รู้สึกกระสับกระส่ายจนเกินไป โดยอาการส่วนใหญ่ไม่ช้ามากก็แปลกผิดตา ดังนั้นผู้ที่มีอาการเหล่านี้จะสังเกตได้ไม่ยากเลย

แต่ถึงอย่าไรก็ตามหากมีข้อใดข้อหนึ่งหรือมีมากกว่า 3 ข้อที่เราเอ๋ยมานี้ แนะนำให้รีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็วเพราะถ้าปล่อยเอาไว้อาจจะถึงตายด้วยการซึมเศร้าได้ เพราะคนเป็นโรคนี้ส่วนใหญ่มักอยากจบชีวิตของตนเอง

หมอเตือน เครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอ  ไม่สามารถฟอกอากาศได้ 

      เชื่อว่าทุกวันนี้หลายคนคงเคยได้เห็นผู้คนที่เดินตามท้องถนนหรือว่าอยู่ในตัวอาคารมีการห้อยคอเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กเอาไว้โดยหวังว่าเครื่องฟอกอากาศนี้จะสามารถช่วยฟอกอากาศให้เราหรือช่วย ป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ให้เราเพราะว่าปัจจุบันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องของมลพิษทางอากาศและ pm 2.5 ค่อนข้างเยอะ

นอกจากนี้ยังมีเชื้อโรคต่างๆมากมายโดยเฉพาะเชื้อโควิดที่กระจายอยู่ในอากาศดังนั้นจึงมีคนหัวใสทำเครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอมาขายแล้วก็ได้รับความนิยม จากผู้คนเป็นจำนวนมาก 

   อย่างไรก็ตามแต่เมื่อไม่นานมานี้เองทางด้านหมอมานพชำแหละได้มีการออกมาแสดงความคิดเห็นและมีการชี้แนะผู้ที่ใช้เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาด้วยระบุว่าเครื่องฟอกอากาศดังกล่าวนั้น

มีขายตามท้องตลาดทั่วไปและมีราคาสูงแต่เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่มีการนำมาห้อยคอกันนี้ไม่สามารถใช้งานได้จริงโดยทางคุณหมอชำแหละเครื่องฟอกอากาศออกมาดูแล้ว

พบว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะสามารถฟอกอากาศได้และไม่สามารถที่จะทำการป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อีกด้วยดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากเพื่อไปทำการซื้ออุปกรณ์เล็กๆมาเอาห้อยไว้ที่คอเพราะหวังว่าอุปกรณ์นี้จะสามารถช่วยฟอกอากาศได้นั่นเอง 

  สำหรับเครื่องฟอกอากาศแบบห้อยคอนี้จะเห็นได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอยู่มากอยู่ในขณะนี้โดยคุณสมบัติของอุปกรณ์ชิ้นนี้มีการกำหนดว่ามันสามารถฟอกอากาศได้

ซึ่งตัวสร้อยนั้นจะสร้างประจุลบไปทำการป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 และยังสามารถช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ทำให้เวลาที่เราสูดอากาศบริเวณเครื่องฟอกอากาศนั้นเราก็จะได้อากาศที่บริสุทธิ์เข้าไปในปอดทำให้หลายคนที่ได้รับการโฆษณาแบบนี้หลงเชื่อและซื้อเครื่องฟอกอากาศนี้มาใช้งาน 

  สำหรับหมอมานพนั้นท่านเป็นศาสตราจารย์อยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชซึ่งท่านดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเรื่องด้านการแพทย์แม่นยำ  และศาสตราจารย์นายแพทย์มานพนี้ก็ได้มีการซื้อเครื่องฟอกอากาศแบบพกพานี้มาทำการตรวจสอบภายในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยยืนยันว่าตัวเครื่องฟอกอากาศนั้นจะไม่สามารถทำการฟอกอากาศได้ใช้ได้อย่างเดียวคือเป็นเพียงแค่เครื่องรางของขลังเท่านั้นแต่ไม่ได้มีผลการใช้งานจริงตามที่มีการโฆษณานอกจากนี้นายแพทย์มานพยังระบุอีกด้วยว่า ผู้คนไม่จำเป็นที่จะต้องหลงเชื่อคำโฆษณาน่ะการตลาดที่มีการสื่อออกมาเกินจริงเพราะสินค้าบางอย่างนั้นผลิตออกมาเพื่อที่จะให้คนหลงเชื่อแต่ไม่ได้สามารถใช้งานจริงตามที่โฆษณา 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   เครื่องช่วยฟังราคาถูก

อาหารใกล้ตัวเพื่อสุขภาพที่หลายคนมองข้าม

รู้หรือไม่ว่าในสมัยปัจจุบันนี้อาหารถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก งานในสมัยนี้ก็มีมาก มายหลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือกทาน ในแต่ละประเภทนั้นก็จะมีประโยชน์ดีๆต่อสุขภาพร่างกายที่แตกต่างกันออกไป

อาหารใกล้ตัวเพื่อสุขภาพ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ไม่ว่าใครก็ตามก็คงที่อยากจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงกันทั้งนั้น

เพื่อเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้การใช้ชีวิตในประจำวันนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอรวมไปจนถึงการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เป็นประจำ

แต่รู้หรือไม่ว่า ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ จะอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงแต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีบางคนที่ปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกรับประทานอาหารและแน่นอนว่าอาหารในสมัยนี้ ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรามักที่จะอยู่ใกล้ตัวและหลายๆคนนั้นมักจะมองข้าม ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า จะมีอาหารใกล้ตัวชนิดไหนกันบ้างที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และเป็นอาหารที่เรานั้นมักที่จะมองข้ามกันอยู่บ่อยๆ ไปดูกันเลย

1.ข้าวกล้อง

รู้หรือไม่ว่าข้าวกล้องเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อสุขภาพของเรามากๆแถมยังเป็นหนึ่งในอาหารที่หลายๆคนนั้นมักจะมองข้ามกันอยู่บ่อยๆ เพราะอาจจะมองว่าข้าวกล้องก็เหมือนกับข้าวธรรมดาทั่วไป แถมยังมีราคาที่แพงจึงทำให้หลายคนนั้นมักที่จะมองข้ามในสิ่งนี้ไป แต่ในความเป็นจริงแล้วข้าวกล้องถือเป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพยิ่งถ้าเรารับประทานก็จะยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา

2.อะโวคาโด

แน่นอนว่าผลไม้ชนิดนี้เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ดีและมีประโยชน์เป็นอย่างมากซึ่งในสมัยก่อนคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมรับประทานเพราะอาจจะมองว่ามีรสชาติที่ไม่ถูกปากแต่ในสมัยปัจจุบันนี้อะโวคาโดถูกยกให้เป็นผลไม้ที่ คนส่วนใหญ่เลือกรับประทานเพราะเป็นผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักและยังเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกด้วย

3.ฟักทอง

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าฟักทองนั้นเป็นหนึ่งในผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลายเมนูอีกด้วย นอกจากนี้ฟักทองยังถือเป็นหนึ่งในผักที่หลายๆคนนั้นมักที่จะมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้วอาหารชนิดนี้ถือเป็นอาหารที่เราไม่ควรมองข้าม ซึ่งควรที่จะรับประทานเป็นประจำ เพราะไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเรายังสามารถให้สารอาหารดีๆแก่ร่างกายของเราได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

แนะนำผักที่ช่วยชะลอความแก่ได้

แนะนำผักที่ช่วยชะลอความแก่ได้ สมัยปัจจุบันนี้การที่เรามีสุขภาพผิวพรรณที่ดี มีผิวที่เปล่งปลั่ง ขาวกระจ่างใส สุขภาพดี ไม่เหี่ยวย่นหรือไม่มีริ้วรอยถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายๆคนนั้นอยากให้เกิดขึ้นกับตนเอง

เพราะการที่เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีรวมไปถึงมีสุขภาพผิวที่ดีนั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้หลายๆคนมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัญหาของคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผิว

โดยเฉพาะผิวหน้าเพราะบางคนนั้นอาจมีผิวหน้าที่แก่กว่าวัย หน้ามีฝ้า หน้ามีริ้วรอย หรือมีรอยเหี่ยวย่นง่าย จึงทำให้หลายๆคนนั้นเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต

แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะในสมัยปัจจุบันนี้มีวิธีการมากมายหลากหลายวิธีที่จะทำให้สาวๆส่วนใหญ่นั้น มีสุขภาพผิวที่ดีดูเด็กกว่าวัย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ราคาแพง หรือแม้แต่วิธีธรรมชาติก็สามารถช่วยให้ผิวของเรานั้นเปล่งปลั่งและขาวกระจ่างใสไร้ริ้วรอยได้

ดังนั้น สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการมีริ้วรอยบนใบหน้าและกำลังมองหาวิธีการชะลอความแก่ของตนเองวันนี้เราก็จะมาแนะนำผัก ที่รับรองได้เลยว่าหากเราทานเป็นประจำนั้น

นอกจากจะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายของเราแล้วยังมีส่วนช่วยในการชะลอความแก่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีผักชนิดไหนกันบ้างไปดูกันเลย

  • พริกหวานแดง

แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในพริกที่หลายๆคนไม่ชอบทานเพราะอาจจะมองว่า มีรสชาติที่เผ็ดแต่ในความเป็นจริงแล้วพริกชนิดนี้เป็นพริกที่มีรสชาติหวานแถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอีกด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยชะลอความแก่

เพราะผักชนิดนี้จะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการลดริ้วรอยและชะลอความแก่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมีคนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้กับผิวของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

  • กะหล่ำปลี

ถึงแม้ว่าผักชนิดนี้จะเป็นผักที่ธรรมดาและหาทานกันได้ง่ายแต่ในความเป็นจริงแล้วกะหล่ำปลีนั้นล้วนแต่มีประโยชน์ดีๆต่อร่างกายของเราเยอะมากๆ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ากะหล่ำปลีมีส่วนช่วยในการชะลอความแก่ได้ ช่วยปกป้องผิวของเราจากการถูกทำลาย ช่วยปกป้องรังสียูวีที่อาจทำร้ายผิว

แถมยังมีส่วนช่วยในการต้านการเกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วยรับรองได้เลยว่าหากใครที่อยากชะลอความแก่การทานกะหล่ำปลีเป็นประจำนั้นช่วยได้อย่างแน่นอน

  • แครอท

รู้หรือไม่ว่าในแครอทนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมากๆ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นผักที่ช่วย บำรุงสุขภาพร่างกายของเราให้ดีได้แต่ยังมีส่วนช่วยในการชะลอความแก่และชะลอวัยได้เป็นอย่างดี ยิ่งเราทานเป็นประจำจะไม่เพียงแต่ช่วยชะลอความแก่และลดริ้วรอยได้แต่ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา และมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปอดได้อีกด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังฟรี

3 ผลไม้ที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลไม้ที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับอาการท้องผูกกันอย่างแน่นอน เพราะบางคนนั้นมักที่จะมีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาหรือเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์จนทำให้ท้องผูกอยู่บ่อยๆและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย

ซึ่งแน่นอนว่าหากเราท้องผูกบ่อยๆนั้นอาจทำให้ระบบขับถ่ายของเรามีปัญหาได้ ดังนั้นทางที่ดีเราควรที่จะกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อขับของเสียออกมา จากภายในร่างกายของเรา เพราะหากเราปล่อยไว้อาการท้องผูกที่ดูธรรมดาและเกิดขึ้นบ่อยนั้น

จะร้ายแรงมากยิ่งขึ้นจนอาจทำให้ร่างกายของเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ ฉะนั้น สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการท้องผูกหรือยากระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เราก็จะมาแนะนำผลไม้ที่ ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาขอบอกได้เลยว่าหากเราทานเป็นประจำนั้นนอกจากจะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายของเราให้ดีขึ้นได้แล้ว

เครื่องช่วยฟังราคาถูก  ยังช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและทำให้การลดน้ำหนัก มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย จะมีผลไม้ชนิดไหนกันบ้างไปดูกันเลย

1.มะเดื่อฝรั่ง

ถึงแม้ว่าผลไม้ชนิดนี้หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักหรือไม่ค่อยได้ยินชื่อแต่รู้หรือไม่ว่ามะเดื่อฝรั่งนั้นถือเป็นหนึ่งในผลไม้ที่นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ แถมยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เพราะในมะเดื่อนั้นอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ค่อนข้างสูงแถมยังช่วยเคลื่อนไหวอุจจาระของเราให้ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังเรียกได้ว่าเป็นยาระบายทางธรรมชาติที่หลายๆคนต้องไม่พลาดอีกด้วย

2.ผลไม้ตระกูลซิตรัส

ผลไม้ตระกูลนี้จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งของไฟเบอร์และใยอาหารที่ค่อนข้างสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการท้องผูกและดีต่อลำไส้ใหญ่ของเราอีกด้วย

3.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าผลไม้ตระกูลนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของ ผลไม้บำรุงผิวพรรณ แต่รู้หรือไม่ว่าผลไม้ตระกูลนี้ก็มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้เช่นกัน เพราะเป็นอีกหนึ่งตระกูลผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ค่อนข้างสูง ซึ่งก็ถือว่าดีต่อระบบขับถ่ายของเราหากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการท้องผูกอยู่บ่อยๆ การเลือกทานผลไม้ตระกูลนี้เป็นประจำจะไม่เพียงแต่ได้ผิวพรรณที่ดีแต่ยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและกระตุ้นระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี

สุขภาพที่ดีควรจะเป็นอย่างไร

การมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงนั้น ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้เรานั้นสามารถใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ไม่ว่าใครก็ตามก็คงอยากที่จะมีสุขภาพร่างกายที่ดี มีรูปร่างที่สวยสุขภาพดีกันทั้งนั้น

อยู่ว่าเราจะสร้างมันขึ้นมาด้วยรูปแบบไหน เพราะในสมัยนี้มีวิธีการสร้างสุขภาพร่างกายขึ้นมาหลากหลายวิธีมาก ๆ ดังนั้น การที่เราไม่ปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกาย ไม่ทำให้ร่างกายของตนเองเสื่อมโทรม หรือเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย

สุขภาพที่ดีควรจะเป็นอย่างไร ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี หรืออยากเริ่มต้นดูแลสุขภาพร่างกายแต่ก็ไม่รู้ว่าสุขภาพร่างกายที่ดีนั้นควรที่จะเป็นอย่างไร

วันนี้เราก็จะมาแนะนำและพาทุกคนไปดูกันว่า สุขภาพร่างกายที่ดีนั้น ควรที่จะเป็นอย่างไรกันแน่ ไปดูกันเลย 

1.มีจิตใจที่สดชื่นแจ่มใส

แน่นอนว่าการมีสุขภาพร่างกายที่ดีนั้น เราควรที่จะมีสุขภาพจิตที่ดีไปด้วย ซึ่งเราควรที่มีสุขภาพจิตที่สดชื่น แจ่มใส มีอารมณ์ที่ดีอยู่เสมอ มีการมองโลกในแง่ดี ไม่ยึดติดกับปัจจุบัน เพราะสิ่งนี้เองถือเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เรานั้นสามารถสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นมาได้ด้วยตนเอง แถมยังสามารถใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย 

2.การมีร่างกายที่เจริญเติบโต

รู้หรือไม่ว่าการที่เราหมั่นพัฒนาตนเอง โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพร่างกาย ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ เพราะการที่เรามีสุขภาพร่างกายที่พัฒนาอยู่เรื่อย ๆ นั้น จะยิ่งทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ น้ำหนัก ส่วนสูง หรือสิ่งอื่น ๆ เองก็ตาม หากเราควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ หรือมาตรฐาน ก็จะยิ่งช่วยให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นได้นั่นเอง

 3.มีความรู้สึกอยากรับประทานอาหาร

แน่นอนว่าการรับประทานอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะการที่เรามีสุขนิสัยที่ชอบการรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์นั้น จะยิ่งช่วยสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่เราได้เป็นอย่างดีนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราเลือกรับประทานอาหาร ไม่ทานอาหารแบบพร่ำเพรื่อ เลือกแต่อาหารที่ดีและมีประโยชน์ให้แก่ร่างกาย เพื่อที่จะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง เพราะสิ่งนี้เองหากเราทำเป็นประจำนั้นจะยิ่งทำให้เราสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นมาได้ด้วยตนเอง เพื่อเป็นตัวช่วยทำให้การใช้ชีวิตนั้นมีประสิทธิภาพนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟัง 

เคล็ดลับการดูแลผิวในช่วงหน้าหนาว 

เนื่องจากช่วงนี้ เป็นช่วงหน้าหนาว อากาศก็จะเริ่มเย็น ๆ เรียกได้ว่าช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่อากาศดีมาก ๆ เลยก็ว่าได้ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าหลาย ๆ คนนั้นคงชื่นชอบฤดูหนาวมาก ๆ เพราะถือเป็นช่วงที่มีความสุขกับการใช้ชีวิต

แต่รู้หรือไม่ว่าในช่วงหน้าหนาวนั้น ถือเป็นฤดูกาลที่อาจทำร้ายสุขภาพผิวของเราได้ ซึ่งแน่นอนว่าอาจทำให้ผิวพรรณของเราเกิดความแห้งกร้าน ไม่มีน้ำมีนวล หรือในบางครั้งอาจทำให้ผิวของเราเกิดกรแตกได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาที่ทเอาหนุ่ม ๆ สาว ๆ เกิดความหนักใจกันเป็นอย่างมาก และมักที่จะมองหาวิธีในการแก้ไขปัญหานี้

เพื่อช่วยฟื้นฟูบำรุงสุขภาพผิวของตนเองนั้นให้สวยสุขภาพดี มีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าในสมัยปัจจุบันนี้มีวิธีการดูแลบำรุงผิวมากมายหลากหลายวิธีให้เราได้เลือกทำ

ซึ่งในแต่ละวิธีนั้นก็จะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้น สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ คนไหนที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผิวในช่วงหน้าหนาว

 

เคล็ดลับการดูแลผิวในช่วงหน้าหนาว  วันนี้เราก็จะมาแนะนเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณนั้นมีสุขภาพผิวที่ีขึ้นในช่วงหน้าหนาว จะมีเคล็ดลับอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • การครับผิวอาทิตย์ละ 2 ครั้ง

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าการที่เราสครับผิวนั้น ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วของเราให้หลุดออกไป ยิ่งในช่วงหน้าหนาวผิวของเราจะแห้งได้ง่าย หากเราอยากมีสุขภาพผิวที่ดีเราก็ควรที่ะหมั่นสครับผิว เพื่อเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะทำให้เราได้สุขภาพผิวที่ดีแล้ว ยังได้ผิวที่นุ่มลื่นมากขึ้นอีกด้วย

  • บำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์

รู้หรือไม่ว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์นั้นมีความสำคัญต่อผิวของเราเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่ผิวหน้าอย่างเงกียวที่เราควรให้ความสำคัญ ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาวผิวของเราจะอ่อนไหวได้ง่าย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวของเราแข็งแรง รับรองได้เลยว่าหากเราหมั่นทางเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นช่วงหน้าไหน หรือฤดูไหนผิวของเราก็จะชุ่มชื้นและสุขภาพดี

  • การบำรุงด้วยน้ำมัน

วิธีนี้หลายคนอาจจะมองว่าเป็นวิธีการเพิ่มความันให้กับผิว แต่ในความเป็นจริงแล้ว หาผิวของเราเกิดความแห้งมาก ๆ การที่เราบำรุงด้วยน้ำมันบำรุงผิวโดยตรง จะสามารถเพิ่มความชั้นชื้นให้กับผิวของเราได้ แถมยังช่วยทำให้ผิวของเราไม่แห้งง่ายในช่วงหน้าหนาว รับรองได้เลยว่าจะยิ่งทำให้ผิวของเราสวยสุขภาพดีอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

3 เคล็ดลับทานของว่างอย่างไรให้สุขภาพดี

เคล็ดลับทานของว่าง การเลือกรับประทานอาหารในสมัยปัจจุบันนี้นั้นมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก เพราะการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่นั้นต้องดำเนินได้ด้วยการรับประทานอาหาร หรือการออกกำลังกาย เพื่อที่จะได้มีสุขภาพร่างกาที่ดีและแข็งแรง รู้หรือไม่ว่า ในสมัยปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกันเต็มไปด้วยการทำงาน

จึงทำให้การใช้ชีวิตของบางคนนั้นมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิม เพราะในแต่ละวันนั้นต้องทำงาน หรือมีเรื่องที่ต้องทำให้ต้องกดดัน

และมีเรื่องที่ต้องทำให้เครียดอยู่บ่อย ๆ เราจึงจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่นั้นต้องการที่จะเพิ่มพลังงาน  เครื่องช่วยฟัง   เพื่อทำให้ร่างกายของตนเองนั้นตื่นตัว และสดชื่นอยู่บ่อย ๆ จึงต้องมองหาอาหารว่าง หรือของว่างเพื่อเป็นตัวช่วยในการเพิ่มพลังงานในการทำงาน ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป

เพราะในสมัยปัจจุบันนี้มีอาหารมากมายที่มีประโยชน์ แถมยังเป้นอาหารว่างที่เราสามารถทานได้ตลอดเวลา เพื่อทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น จะมีปวิธีการทานอาหารว่างในรูปแบบไหนกันบ้างที่สามรถช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายได้บ้าง ไปดูกันเลย

1.ไม่ควรปล่อยละเลยความหิว

รู้หรือไม่ว่าการที่เราให้ความสำคัญกับความหิวของเรานั้นถือเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งถ้าใครอยากที่จะมีสุขภาพร่างกายที่ดี การที่เรารับประทานอาหารเมื่อเรารู้สึกหิว จะยิ่งทำให้ร่างกายของเราสะสมพลังงานไว้ใช้ในยามที่จำเป็น ดังนั้น ทางที่ดีเราไม่ควรที่จะปล่อยท้องของเราหิวเกินไป เพราะถือเป็นการทำร้ายสุขภาพร่างกายของเราทางอ้อมนั่นเอง

2.การเลือกทานอาหารว่างอย่างมีสติ

เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกหิว เชื่อว่าลา ๆ คนนั้นมักที่จะมองหาอาหารท่สามารถทำให้ร่างกายสดชื่นได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะรับประทานอาหารประเภทไหนก็ได้ เพราะอาหารในสมัยปัจจุบันนี้อาหารบางประเภทก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเสมอไป ฉะนั้น ทางที่ดี เราควรที่จะเลือกรับประทานอาหารอย่างมีสติ เลือกทานอย่างมีสมาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อที่เราได้มีสุขภาพร่างกาที่ดีและแข็งแรง

3.เมื่อรู้สึกอิ่มก็ควรหยุด

หลาคนอาจจมองว่าการที่เรารับประทานอาหารว่างเยอะ ๆ จะยิ่งทำให้ร่างกายของเรากักตุนอาหารไว้ใช้ในยามที่จำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารับประทานอาหารจนอิ่มแล้ว เราก็ควรที่จะหยุด เพราะหากเรายังฝืนที่จะกิน จะยิ่งทำให้ระบบย่อยาหารของเรานั้นทำงานหนักจนเกินไป แถมยังเป็นการทำร้ายร่างกายทางอ้อมอีกด้วย